ในวงการแฟชั่นเสื้อผ้า
หากเอ่ยถึงชื่อของอาจารย์ปกรณ์ วุฒิยางกูร เจ้าของโรงเรียนปกรณ์ หรือในชื่อเต็มว่า
“สถาบันสอนแฟชั่นแพทเทิร์นเมคกิ้ง
เดรปปิ้ง และมูลาจ ขั้น”
ซึ่งเป็นสถาบันสอนแฟชั่นขั้นสูงแห่งแรกของไทย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก
เพราะดีไซน์เนอร์ซื่อดังในเมืองไทยหลายคนล้วนเป็นต้นกล้าที่อาจารย์ปลูกไว้แทบทั้งสิ้น
อาจารย์ปกรณ์เล่าว่า . . . สิ่งที่จุดประกาย ให้เขาเข้ามาอยู่ในวงการแฟชั่นเสื้อผ้าอย่างจริงจังนั้นก็คือ การประกวดนางงาม แทนที่จะเรียนด้านบัญชีตามความต้องการของทางบ้าน
“ตอนนั้นได้ดูการประกวดนางงาม เวทีแรกคือ เวทีที่สวนลุมพินี เลยเกิดแรงบันดาลใจและความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้เสื้อผ้าออกมาสวยที่สุด ให้ผู้หญิงสวยๆได้ใส่ คิดว่าจะทำอย่างไรให้เสื้อผ้าของเราดูสวยที่สุด ดูโก้ และขึ้นเวทีได้ เลยเบนเข็มมาศึกษางานด้านเสื้อผ้าอย่างจริงจัง”
หลังจากที่ร่ำเรียนวิชาการตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูงและทำงานหาประสบการณ์ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศแถบยุโรปนานกว่า 7 ปี อาจารย์ปกรณ์จึงกลับมาเปิดโรงเรียนสอนตัดเย็บเสื้อผ้าในเมืองไทย และสอนด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิดด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู
“ด้วยความรักประเทศไทยอยากให้ดีไซน์เนอร์ไทยสร้างเสื้อผ้าสวยๆ ขึ้นมาเมื่อมีโอกาสได้ไปเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูงที่ประเทศฝรั่งเศสและอเมริกาจึงอยากนำความรู้นั้นกลับมาสอนคนไทยให้สร้างเสื้อผ้าได้สวยไม่แพ้ชาติอื่น แม้ว่าตอนที่กลับมานั้นจะมีโรงเรียนสอนตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่จำนวนมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่าสอนได้ไม่สวยมาก เลยตัดสินใจเปิดโรงเรียนสอนอย่างจริงจัง เคยจ้างครูมาสอนแล้วก็ไม่เหมือนกับเราสอนเอง อาจเพราะเรามีใจรักที่จะสอน อยากถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างแก่นักเรียน ซึ่งนักเรียนแต่ละคนก็มีความสนใจในพื้นฐานในการเรียนรู้ไม่เหมือนกัน การสอนจึงต้องปรับเปลี่ยนและลงรายละเอียดเป็นรายบุคคลไป
แม้ค่าเรียนการตัดเย็บเสื้อผ้าขั้นสูงจะมีราคาค่างวดที่สูง แต่ความสุขของบรมครูท่านนี้เกิดขึ้นจากการที่ได้สอนและความภูมิใจที่ได้เห็นลูกศิษย์สร้างสรรค์เสื้อผ้าสวยๆ และมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต”
"จุดสูงสุดในชีวิตนี้คือ ความเป็นครูเพราะสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขในทุกๆวัน คือ การได้สอนลูกศิษย์ เรียกได้ว่าภูมิใจและดีใจมากที่ได้เป็นครู และจะสอนลูกศิษย์ทุกคนอย่างใกล้ชิดแบบนี้ไปจนกว่าจะสอนไม่ไหว เพราะการสอนคือ สิ่งที่เรารัก และทำให้มีความสุขมาก และอยากให้ลูกศิษย์ทำเสื้อผ้าสวย ๆ ออกมา และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง สวยงาม” แล้วเมล็ดพันธุ์ที่อาจารย์บ่มเพาะไว้ ก็ได้ผลิตงานสร้างสรรค์ให้แก่วงการแฟชั่นไทยได้สมดังที่อาจารย์ตั้งใจไว้อย่างงดงาม"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น